เมนู

7. โคตมเถรคาถา



ว่าด้วยคาถาของพระโคตมเถระ


[376] บุคคลพึงรู้จักประโยชน์ของตน พึงตรวจดูคำสั่งสอน
ของพระศาสดา และพึงตรวจดูสิ่งที่สมควรแก่กุลบุตร
ผู้เข้าถึงซึ่งความเป็นสมณะในพระศาสนานี้ การมีมิตรดี
การสมาทานสิกขาให้บริบูรณ์ การเชื่อฟังต่อครูทั้งหลาย
ข้อนี้ล้วนแต่สมควรแก่สมณะ ในพระศาสนานี้ ความ
เคารพในพระพุทธเจ้า ความยำเกรงในพระธรรมและ
พระสงฆ์ตามความเป็นจริง ข้อนี้ล้วนแต่สมควรแก่สมณะ
การประกอบในอาจาระและโคจร อาชีพที่หมดจด อัน
บัณฑิตไม่ติเตียน การตั้งจิตไว้ชอบนี้ ล้วนแต่สมควร
แก่สมณะ จาริตศีลและวาริตศีล การเปลี่ยนอิริยาบถ
อันน่าเลื่อมใส และการประกอบในอธิจิต ก็ล้วนแต่
สมควรแก่สมณะ เสนาสนะป่าอันสงัด ปราศจากเสียง
อึกทึก อันมุนีพึงคบหา นี้เป็นสิ่งที่สมควรแก่สมณะ จตุ-
ปาริสุทธศีล พาหุสัจจะ การเลือกเฟ้นธรรมตามความจริง
การตรัสรู้อริยสัจ นี้ก็ล้วนแต่สมควรแก่สมณะ ข้อที่บุคคล
มาเจริญอนิจจสัญญาในสังขารทั้งปวงว่า สังขารทั้งปวง
ไม่เที่ยง เจริญอนัตตสัญญาว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา
และเจริญอสุภสัญญาว่ากรัชกายนี้ไม่น่ายินดีในโลก นี้ก็
ล้วนแต่สมควรแก่สมณะ การที่บุคคลมาเจริญโพชฌงค์ 7
อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 และอริยมรรค 8 ก็ล้วนแต่

สมควรแก่สมณะ การที่บุคคลผู้เป็นมุนีมาละตัณหา
ทำลายอาสวะพร้อมทั้งมูลราก เป็นผู้หลุดพ้นจากอาสวะ
กิเลสอยู่ ก็ล้วนแต่สมควรแก่สมณะ.

จบโคตมเถรคาถา

อรรถกถาโคตมเถรคาถาที่ 7



มีคาถาของท่านพระโคตมเถระอีกรูปหนึ่งว่า วิชาเนยฺย สกํ อตฺถํ
ดังนี้เป็นต้น. เรื่องนั้นมีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร ?
ท่านพระโคตมเถระรูปนี้ ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้า
พระองค์ก่อน ๆ ในภพนั้น ๆ ได้สั่งสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งวิวัฏฏะไว้
ก่อนหน้าแต่กาลอุบัติขึ้นแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย (ท่าน)
บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ชื่อว่า อุทิจจะ ในกรุงสาวัตถี พอเจริญวัยแล้ว
เป็นผู้เรียนจบไตรเพท ฝึกฝนวิธีการพูด เมื่อไม่ได้คนอื่นที่มีคำพูดที่
เหนือกว่าคำพูดของตน จึงเที่ยวทำการพูด หาเรื่องทะเลาะกับคนเหล่า
นั้น ๆ.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย อุบัติขึ้นแล้วในโลก
ทรงแสดงพระธรรมจักรอันบวรให้เป็นไปแล้ว ทรงฝึกเวไนยสัตว์ทั้งหลาย
มีสกุลบุตรเป็นต้น โดยลำดับแล้ว ได้เสด็จเข้าไปยังกรุงสาวัตถี เพื่อ
ฝึกอบรมอนาถบิณฑิกเศรษฐี ในคราวที่มอบถวายพระเชตวันแด่พระ-
ศาสดา ท่านได้มีศรัทธา เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ฟังธรรมแล้วทูลขอ
บรรพชา.